วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เพิ่มรายได้อีก 10,000 บาท ต่อเดือน

ถ้าเราเป็นเบอร์ 1 เราคือคนกำหนดรายได้  แต่ถ้าเราเบอร์ท้ายๆ คนอื่นจะกำหนดรายได้น้อยๆให้เรา

ผมเคยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้มาก่อน มีปัญหาในการทำงานอย่างรุนแรง 

ถูกดูถูกอย่างมาก ว่าภาษาไม่ดี  งานการก็ไม่ก้าวหน้า ตําแหน่งที่มีก็ถูกแช่

จึงตัดสินใจ ฝึกฝนอย่างหนัก และเอาชนะขีดจำกัดของตนเองได้

พอพูดภาษาอังกฤษได้ เงินเดือน ก็เพิ่มขึ้นอีก 10,000 บาททันที

เมื่อผมลาออกมาเป็นวิทยากร 

เวลาผมไปสอนฝรั่ง หรือต่างชาติ 

ถ้าต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษ ผมจะบวกอีกเพิ่มอีก 10,000 บาท ก็ไม่มีปัญหาอะไร

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ภาษาอังกฤษสำคัญมาก

ถ้าเรารู้ภาษาไทยภาษาเดียว ก็ทำงานที่ประเทศไทยประเทศเดียว  

แต่ถ้ารู้ภาษาอังกฤษ เราสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ทั่วโลก

เล่มนี้มีคำตอบครับ 

รวบรวมเทคนิคต่างๆ ที่ผมฝึกหัดด้วยตัวเอง ปัญหาอุปสรรคที่เจอ การก้าวข้ามเพื่อการชนะ แรงบันดาลใจขั้นเทพที่นำมาใช้ได้จริง 

อ่านง่าย สบายตา สนุก มีสาระ จบภายใน 50 นาที

อยากได้มั้ยครับ มาคุยกัน 190 บาท รวม EMS พร้อมส่ง


ปีใหม่ ต้องดีกว่าปีเก่า

#ต่างที่คิดพิชิตภาษา

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2563

แก้ว Mug coffee The Safety Coach


สิ้นสุดการรอคอย
The Safety Coach Coffee Mug

คุณสมบัติทั่วไป

1. สีขาว หรือ สีดำ
2. ทำจาก Stainless แท้
3. เก็บอุณหภูมิ 
3. BPA Free
4. ความจุ 350 ML
5. สวยงาม แข็งแรง

*** Stainless เกรด Kitchen ware 

ใช้สำหรับใส่ น้ำเปล่า ชา กาแฟ ไม่แนะนำให้ใช้ใส่ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ที่มีความเป็นกรด-ด่าง

พิเศษ ! 

จากราคา ใบละ 390 บาท เหลือเพียงใบละ 299 บาท จัดส่งฟรี สำหรับ 100 ใบแรก

สั่งซื้อติดต่อ Inbox 
LINE : @thesafetycoach
https://lin.ee/sF6hMc8

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ผู้นำด้านความปลอดภัย Safety Leadership

มีโอกาสไปให้สัมภาษณ์ ที่ SCG บางซื่อ ในหัวข้อ บทบาทของผู้นำ และ หน.งาน ในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย 

การให้สัมภาษณ์เป็นสิ่งที่ดีเพราะ เราได้ตอบตรงๆ ในสิ่งที่เขาอยากรู้ 

ในยุค COVID นี้ ถ้ามองให้ดี ในวิกฤต มันจะมีโอกาส 

เราอาจจะต้องห่างกัน  แต่ SCG ได้ทำให้ดูแล้วว่า 

ไม่จำเป็นต้องใช้เวลามาก ไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้กันมาก ก็สามารถใช้เวลาที่น้อยนิดนี้ ให้มีประสิทธิภาพได้

ใช้การถ่ายทอดสด บอร์ดคลาส แบบมืออาชีพ ไปทั่ว ทุกบริษัทในเครือ 

ได้รับชมกันถ้วนหน้า และ สามารถ แชทเข้ามาคุยกันได้ในรายการสด 

สนุก และได้ประโยชน์มากครับ 

ผมยังย้ำเสมอว่า การจะทำให้ความปลอดภัยดีนั้น

ผู้นำ ต้องเป็น "ตัวอย่างที่ดี"

ส่วนความหมายของผู้นำด้านความปลอดภัยนั้น ก็คือ 

ผู้ซึ่ง นำผู้ตาม ไปสู่เป้าหมาย ความปลอดภัยขององค์กร โดยผู้ตามนั้น รู้สึกยอมรับ มากกว่าถูกการบังคับ

เดี๋ยวจะมาเล่าเป็น แต่ละตอน จุด . รอไว้ได้เลยครับ

ขอบพระคุณทีมงาน SCG ทุกคน และ น้องพิธีกร มืออาชีพทั้งสองคนด้วยนะครับ จับประเด็นกันเก่งมากๆ

ผู้นำด้านความปลอดภัย

Safety Leadership


ติดต่องานอบรม หรือ ซื้อหนังสือแจกพนักงานได้ที่ 

www.pramoteo.com

หรือ LINE@ : @thesafetycoach

ปราโมทย์โอภาสมงคลชัย

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2563

หนังสือความปลอดภัย BBS ผู้นำด้านความปลอดภัย Safety Leadership

1. เคยไหม อยากให้พนักงานทำงานด้วยความปลอดภัย แต่กลับถูกปฏิเสธ

2. อยากให้นายจ้าง เห็นความสำคัญของความปลอดภัย แต่ทำไมเหมือนเขาไม่เห็น ไม่สนับสนุน สักที

ถ้าคุณเจอปัญหา 2 ข้อนี้ บอกได้เลยว่า จะต้องเจอปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมาย 

โชคดี หนังสือ 2 เล่มนี้ มีคำตอบ และช่วยคุณได้

ผมเขียนจากประสบการณ์ตรง และ ค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้มากมาย ทั้งในและนอกประเทศ

อ่านง่าย สบายตา 200 กว่าหน้า อ่านจบในเวลาไม่เกิน 50 นาที

โปรโมชั่นพิเศษ จำนวนจำกัด

เล่มละ 220 บาท 
ค่าจัดส่ง เล่มละ 29 บาท

พิเศษ !

สั่ง 2 เล่ม จากราคา 490 บาท (รวมค่าจัดส่ง)
เหลือเพียง 390 บาท ส่งฟรี EMS

สั่งเลยที่ https://lin.ee/sF6hMc8

ขอบคุณที่สนับสนุนครับ

The Safety Coach

#หนังสือความปลอดภัย

วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2563

วิทยากรความปลอดภัยมืออาชีพ


พูดแล้ว ทำไมไม่สนใจ

การพูดให้คนฟังติดตาม เป็นเรื่องที่ฝึกกันได้ ไม่จำเป็นที่เราจะต้องมีความรู้มากมายนัก

สำคัญสุด คือ ต้องรู้ว่า 

"คนฟังเป็นใคร เขาอยากรู้อะไร" 

แล้วเราก็ไปก็ศึกษา เข้าใจเรื่องนั้นอย่างถ่องแท้ ให้เพียงพอที่จะทำให้เขาเข้าใจ

ผมโชคดีครับที่เป็น "คนโง่"

สมัยเรียนผมได้เกรดเฉลี่ย 0.86 ตก 5 วิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีว ภาษาอังกฤษ 

รวมถึงวิชาพระพุทธศาสนา ศาสนาประจำชาติ ผมก็ตก

ด้วยความที่เป็นคนเรียนไม่เก่งนี่เอง 

จึงเข้าใจว่า พวกที่เรียนไม่รู้เรื่อง เกิดจากสาเหตุอะไร และ รู้ว่าจะพูดอย่างไรให้คนพวกนี้เกิดความเข้าใจ

ก็เอาตัวเองเป็นที่ตั้งนี่แหละครับ

พยายามพูดในเรื่องที่ง่ายๆ เรื่องใกล้ตัว แล้วค่อยๆเชื่อมโยง ไปยังเรื่องที่เราต้องการจะบอกเขา

แค่นี้ การพูดก็จะดีขึ้น ทรงพลังเข้าใจง่ายขึ้นแล้วครับ

ยกตัวอย่าง

ถ้าอยากให้ผู้เรียนทราบว่าออกซิเจน ต่ำกว่า 6 เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร จะทำให้ หมดสติ เสียชีวิตได้

หากเราพูดลอยๆแบบนี้ มันก็ไม่ได้รับรสชาติ จืดชืด ไม่น่าฟังไม่เข้าใจ ไม่เกิดการจดจำ

สิ่งที่พูดตรงนี้ เราเรียกว่า "หลักการ" 

ถ้าเราเอาหลักการเป็นตัวนำ คนฟังส่วนมากจะไม่สนใจ 

สมองของคนเรา ต้องการอะไรที่มัน "เชื่อมโยง"

ให้เราเริ่มด้วยการเอาเรื่องง่ายๆ มาเล่า แล้วจับมาเชื่อมโยง 

จะทําให้การฟัง น่าฟัง น่าติดตาม และเข้าใจมากขึ้น

ยกตัวอย่าง

คนงานคนหนึ่ง รีบลงไปในบ่อน้ำ ซึ่งมีความลึก 50 เมตร เพราะ พรุ่งนี้ไม่ว่าง กลัวงานไม่เสร็จ

สักพักหนึ่ง ลูกชายของเขาก็ออกตามหา แต่หาไม่เจอ 

มาเจออีกที พบว่าพ่อ เสียชีวิตอยู่ในบ่อน้ำแล้ส

จึงปีนลงไปช่วย ลงไปได้เพียงแค่ครึ่งทาง ก็ต้องรีบขึ้นมาเพราะ แน่นหน้าอก หายใจไม่ได้ 

เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง จึงใช้เครื่องวัดก๊าซทำการตรวจวัด 

ปรากฏว่า มีปริมาณก๊าซออกซิเจนน้อยกว่า 6 เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร

นี่เป็นสาเหตุ ที่ทำให้เขาขาดอากาศหายใจ

การขาดอากาศหายใจ เกิดขึ้นได้ในบ่อน้ำ ที่ลึก ที่แคบ 

และถ้าออกซิเจนน้อยกว่า 6 เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร ทำให้สลบ และ เสียชีวิตได้

นี่เป็นตัวอย่าง การเล่าเรื่องง่ายๆ และ น่าติดตาม

ให้เราเริ่มต้นที่ Story ก่อน แล้วจบด้วยหลักการครับ

หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ กับหลายๆคนที่ต้องเป็นวิทยากร(จำเป็น) หรือมีอาชีพเป็นวิทยากรอยู่แล้วนะครับ

#เส้นทางสู่วิทยากรความปลอดภัยมืออาชีพ

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้

ติดต่ออบรมความปลอดภัย

ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย
The Safety Coach Company Limited
www.pramoteo.com

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563

การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย Safety Culture

ช่วงหลังผมได้ยินคำถาม ค่อนข้างมาก เกี่ยวกับการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยว่า วัฒนธรรมความปลอดภัย คือ อะไร และจะสร้างอย่างไร

จึงทำการศึกษาข้อมูล และ สรุปเป็น 10 ข้อสั้นๆ เพื่อเป็นประโยชน์กันครับลองไปอ่านดู

10 ข้อที่ต้องทำ
วัฒนธรรมความปลอดภัย

1. ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัย ตลอดเวลา 

2. ค้นหา อันตราย อย่างต่อเนื่อง และริเริ่มป้องกันเป็นอันดับแรก 

3. กระตือรือร้น ที่จะมีส่วนร่วมต่อกิจกรรมความปลอดภัย  

4. สื่อสารความปลอดภัย  ด้วยการไม่ข่มขู่ หรือ บังคับ  

5. อุบัติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นโอกาส ที่ได้เรียนรู้ ความผิดพลาดของระบบที่มี เพื่อนำไปปรับปรุง

6. ต้องให้ความรู้ และ ทักษะ พัฒนาความสามารถในการทำงานอย่างปลอดภัยต่อเนื่อง

7. เข้าใจ เกี่ยวกับอันตราย การปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย ไม่ทำงานด้วยความเสี่ยง 

8. ผู้บริหาร หัวหน้างาน ต้องไม่ให้ลูกน้อง ทำงานที่เสี่ยงเป็นอะไรอันตราย โดยปราศจากการป้องกัน 

9. การแก้ไขเชิงบวก เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องนำมาใช้ 

10. ทุกส่วนของธุรกิจ ต้องเกี่ยวข้องกับการป้องกันการได้รับบาดเจ็บ และมีความปลอดภัยในการทำงาน

เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับการและองค์กรที่ต้องการจะสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยขึ้นมา

#วัฒนธรรมความปลอดภัย

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้

ติดต่ออบรมความปลอดภัย

ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย
The Safety Coach Company Limited
www.pramoteo.com

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

รถบรรทุกแก๊ประเบิดที่พังงา

ร้ายแรงกว่า รถแก้สระเบิดที่เพชรบุรี 
คือ รถบรรทุกแก๊ประเบิด ที่พังงา

มีผู้เสียชีวิต 207 ราย คน บาดเจ็บกว่า 520 คน เมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2534

รถพ่วง18 ล้อ ขับมาจากภูเก็ต บรรทุกระเบิดชนิดไดนาไมค์ 

พร้อมชนวน และเชื้อปะทุจำนวนเต็มคันรถ น้ำหนัก 30 ตัน หรือเชื้อปะทุจำนวน 1,300,000 ชิ้น เพื่อนำไประเบิดหินที่สระบุรี

เมื่อขับมาถึง "โค้งหักศอก" รูปครึ่งวงกลม ใกล้สถานีอนามัย ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

รถพ่วงคันนี้ ได้เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ทำให้ ระเบิด ชนวน และเชื้อปะทุต่างๆ ได้หล่นกระจายเกลื่อนถนน 

ชาวบ้านจำนวนมากได้เข้ามา "มุงดู" โดยไม่รู้เลยว่า อุบัติเหตุครั้งใหญ่กว่า กำลังจะเกิดขึ้นตามมา...

2 ชั่วโมง ถัดมา 

ในขณะที่ไทยมุง ยังคงมุงดูเหตุการณ์ สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดก็ได้เกิดขึ้น เมื่อระเบิด ชนวน และเชื้อปะทุต่างๆ ที่หล่นกระจาย 

ได้เกิด "ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง"  เสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังไปไกลหลายกม. รัศมีของระเบิดแผ่ไปไกลกว่า 250 ม. 

ทำลายชีวิตผู้คน สิ่งของ และบ้านเรือนบริเวณนั้นพังราบเป็นหน้ากลอง 

แรงระเบิดได้ทำให้บ้านเรือนราษฎรกว่า 50 หลัง 

รวมทั้งชาวบ้านที่นั่งอยู่ในรถบัสและรถยนต์สองแถวเสียชีวิตทันที

เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลียร์พื้นที่แล้วนำศพทั้งหมดไปเผารวมกันที่วัดประชุมศึกษาที่อยู่ห่างไป 400 เมตร 

เนื่องจากเมรุของวัด "ไม่สามารถรองรับ" จำนวนศพที่มากขนาดนั้นได้

อุบัติเหตุนี้ นอกจากจะนำความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่มาสู่ผู้คนในชุมชนนั้นแล้ว 

ยังเปลี่ยนวิถีชุมชนทุ่งมะพร้าวจากชุมชนที่คึกคักและรุ่งเรือง กลายเป็นชุมชนที่ "ซบเซา" มาจนถึงทุกวันนี้ 

และยังมีเรื่องเล่าหลอนๆหลายเรื่องในบริเวณนั้น 

ไม่ว่าจะได้ยินเสียงโอดควน ด้วยความทรมาน ผีหัวขาด แขนขาด ผิวหนังไหม้ และ ต่างๆมากมาย

สาเหตุ ตั้งไว้ 3 ประเด็น คือ 

- มีคนเอาไฟไปจุดแก๊ประเบิด 
- การใช้วิทยุสื่อสาร จนไปชนวนจุดระเบิด
- เกิดจากแรงเสียดสี ของแก๊ประเบิดนั่นเอง

ในมุมมองของนักอาชีวอนามัยฯ หรือ จป.เอง 

เราเชื่อว่า "อุบัติเหตุสามารถป้องกันได้"

มาตรการป้องกันที่ต้องมี

1. ฝึกอบรมการขับรถขนส่งวัตถุอันตราย
2. ควบคุมปริมาณวัตถุอันตรายในการขนส่ง
3. มีแผนฉุกเฉินในกรณีวัตถุอันตราย หก หรือ รั่วไหล
4. ประเมินอันตราย และ เส้นทางในการเดินทาง
5. มีสติในการขับขี่ และ ใช้ความเร็วตามที่กม.กำหนด

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากอุบัติเหตุครั้งนี้

1. ไทยมุง นอกจากจะไม่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุแล้ว ยังทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกว่าเดิม

2. การกั้นพื้นที่ และ ป้องกันไทยมุง เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ

3. ถ้าวัตถุอันตรายเป็นสารเคมี หรือระเบิด ต้องป้องกันไม่เกิดแหล่งความร้อน ประกายไฟ หรือ การกระแทก เสียดสี ในบริเวณนั้น

4. การประเมินอันตราย และ เส้นทางในการขับขี่ เป็นสิ่งสำคัญมาก ระยะทาง ถ้าไกลหน่อย ยังดีกว่า ระยะสั้น แต่คดเคี้ยวเป็นอันตราย

คำถาม

1. บริษัทของเรา มีการขนส่งวัตถุอันตรายหรือเปล่า?
2. มีลูกค้าขนส่งวัตถุอันตรายมาให้เรามั้ย?
3. เราได้มีมาตรการความปลอดภัย ในเรื่องนี้อย่างไร
4. มาตรการที่มีเพียงพอ หรือ ได้ทำการทบทวนหรือยัง?

ขอแสดงความเสียใจกับญาติและผู้เสียชีวิตทุกคนด้วยครับ 

ถ้าบทความนี้ ทำให้ผู้อยู่ในเหตุการณ์เกิดความสะเทือนใจ

ผมต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ ผมมิได้มีเจตนาในการทำร้ายจิตใจผู้ใด

แต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์เพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุกคนครับ

Source : ณรงค์ ชื่นนิรันดร์, บอร์ดแคสไทยแลนด์,เรื่องเล่า เรื่องผี

เรียบเรียงโดย
ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย
The Safety Coach

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้

อันตรายจากการเชื่อมโลหะ


แต่ละปี ช่างเชื่อมหายใจฟูมโลหะเข้าไปปริมาณเท่าไร ?

จากข้อมูลของ Bureau of Labor Statistic 
พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากงานเชื่อมมากกว่า 5 แสนคน ต่อปี และ ใน 4 คน ของ 1,000 คน มีความเสี่ยงต่อการ เสียชีวิต 

นอกจากนั้นยังมีอันตรายอื่นๆมากมาย

 - ระบบทางเดินหายใจ 
 - รังสี 
 - เสียงดัง
 - ความร้อน
 - ดวงตา และใบหน้า
 - การยศาสตร์
 - ไฟฟ้า
 อัคคีภัย
 แรงดันของแก้ส

กลับมาสอน  Welding Hazards อีกครั้ง 
ไม่ได้สอนมานานมาก 

นำประสบการณ์
ที่เคยเรียนมาจากสวีเดน และ อเมริกา มาแบ่งปันครับ

#ความปลอดภัยในงานเชื่อม
#อันตรายจากงานเชื่อม

อันตรายจากมือถือ สมาร์ทโฟน

ชายคนหนึ่ง ตกลงไปในชานชลา ของรถไฟฟ้า   ใน Philadelphia แต่โชคดีที่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน 

โดยสาเหตุเกิดจาก การ พิมพ์ข้อความบนโทรศัพท์มือถือในขณะที่เดิน แล้วก้าวพลาดตกลงไป

ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งมาก และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ 

ในประเทศอังกฤษ เมื่อหลายปีก่อน มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เดินพิมพ์ข้อความ และเสียบหูฟัง ฟังเพลงไปด้วย ในขณะที่เดินผ่านชานชลานั่นเอง 

ก็ถูกรถไฟพุ่งชนอย่างจัง และเสียชีวิตทันที

คนขับรถไฟบอกว่า เห็นเธอแต่ไกลแล้ว กดแตรเตือนแล้ว แต่เธอไม่ได้ยิน และเขาไม่สามารถหยุดรถไฟได้ทัน 

จึงทำให้เกิด โศกนาฏกรรมดังกล่าว

แม้กระทั่งในเกาหลีใต้เองก็เช่นเดียวกัน สถิติที่เกิดขึ้นบนทางข้างถนน อันเนื่องจากการพิมพ์ข้อความบนโทรศัพท์

มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในทุกปี 

ทางรัฐบาลเกาหลี จึงออกมารณรงค์ ไม่ว่าจะเป็นการติดสติ๊กเกอร์เตือนที่ทางเดิน และป้ายบริเวณทางข้ามว่า ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ

เป็นการรณรงค์ที่ดี 

ประเทศไทยเราเอง สำหรับจป. อย่างเราๆ ก็เริ่มรณรงค์วัฒนธรรมความปลอดภัยในโรงงาน

ด้วยการไม่ใช้โทรศัพท์มือถือในขณะเดิน จะเป็นสิ่งที่ดีมากครับ

ไม่ต้องรอ เราทำได้ทำเลยครับ...

Unseen Unsafe

Photo credit : KBS News

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้
www.pramoteo.com

เรียนอาชีวอนามัยและความปลอดภัย จบไปทำอะไร

หลายคน เลือกเรียนอาชีวอนามัยฯ เพราะเชื่อว่าเงินดี และไม่ตกงาน ข่าวร้าย คือ ยังมีอีกหลายอย่างที่เรายังไม่รู้ 

1. จป.เป็นอาชีพที่น่ารังเกียจมาก เพราะทำให้ผลผลิตของนายจ้างลดลง เพิ่มขั้นตอนในการทำงาน และ ค่าใช้จ่ายของบริษัทมากขึ้น

2. จป. นิ้วชี้ยาวกว่านิ้วกลาง วันๆไม่ทำอะไร เดินไปเดินมา แล้วก็จับผิดคนอื่น สั่งอย่างเดียว

3. จป. ขี้ฟ้อง ทำตัวเป็นไม้กันหมาในห้องแอร์

4. จป. ทำงานเอาหน้า พอไม่มีอุบัติเหตุ บอกว่าฝีมือตัวเองคนเดียว

ที่ผมพูดมาทั้งหมด คือ ความจริง นี่คือ ความคิดของ
คนที่ “คิดไม่เป็น หรือ คิดลบ” 

ซึ่งจริงๆแล้ว อาชีพนี้ เป็นอาชีพที่ทรงเกียรติมาก

1. ไม่มีอาชีพไหนบนโลกนี้ ที่ดูแลความปลอดภัยของทุกคนทุกระดับ และความปลอดภัยทุกตารางนิ้ว 

หมอรักษาคนได้ทีละ 1 คน แต่เรา ช่วยเหลือให้คนทีละจำนวนมากๆ ให้รู้จักการป้องกัน และดูแลสุขภาพอนามัยในการทำงานของตัวเอง

2. จป. ไม่ได้เพิ่มค่าใช้จ่าย เพราะความปลอดภัย คือ ส่วนผสมหลักของการผลิต ไม่มีความปลอดภัย ก็ผลิตไม่ได้  

3. จป. ไม่ได้เดินไปเดินมาเพื่อจับผิด แต่เดินเพื่อสังเกตความปลอดภัย และ รับฟังปัญหาด้านความปลอดภัยเพื่อนำไปแก้ไข

4. จป. ต้องนั่งในห้องแอร์ เพราะเอกสารมันเยอะมาก และ งานนอกห้องแอร์ก็เยอะไม่แพ้กัน

ซวยซ้ำ ซวยซาก เพราะ นายจ้างเข้าใจผิดคิดว่า งาน จป. “จ้างแค่คนเดียวก็พอ” ลองนับจำนวนหัวดูสิ น้อยกว่าแผนกอื่นๆทั้งนั้น

จป. สำคัญสุดๆ เพราะต้อง“รับผิดชอบชีวิต และสุขภาพ” ของทุกคน

ถ้าใครไม่มีเมตตา หรือว่า คิดจะมาเอา มากกว่าจะให้ ก็คงไม่เหมาะกับ อาชีพนี้เท่าไรนัก...

มือของผู้ให้ อยู่สูงกว่ามือของผู้รับ
ผู้รับว่ามีความสุขแล้ว แต่ผู้ให้มีความสุขมากกว่า

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้
#ความปลอดภัย
www.pramoteo.com

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2563

ใช้มือถือในขณะขับขี่อันตราย


อุบัติเหตุบนท้องถนน มิได้มีเพียงแค่ เมาแล้วขับ หรือ ขับรถเร็ว 

การใช้โทรศัพท์มือถือในการขับขี่ก็เป็นอีก 1 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

โดยเฉพาะตอนนี้ จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือกันมากขึ้นทุกวัน รวมถึงการใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับขี่ด้วย

จากการวิจัยของสถาบันเวอร์จิเนียเทค ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า

การพิมพ์ข้อความในขณะขับขี่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงถึง 23 เท่า 

การละสายตาดู Social Network ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้มากถึง 1.3 เท่า 

การขับขี่ด้วยความเร็ว 88.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยไม่มองถนนเป็นเวลา 4.7 วินาที 

จะทำให้รถเคลื่อนที่ได้ยาวเท่ากับ 1 สนามฟุตบอลเลยทีเดียว

สำหรับประเทศไทยเรานั้น 

แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรในระดับจังหวัด ได้ทำการเก็บสถิติการจับกุมคดีใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถในปี พ.ศ.2561 พบว่ามีผู้กระทำผิด เกือบ 2 แสนราย และ  5 จังหวัด ที่มีอัตราการจับกุมสูงสุด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี ภูเก็ต อำนาจเจริญ และมุกดาหาร 

วันก่อนผมพาครอบครัวไปเที่ยว จ.เพชรบุรี ขณะที่ขับขี่อยู่นั้นผมได้ยินเสียงปัง ดังขึ้นที่ท้ายรถ

ปรากฏว่าผมเห็น Mini Cooper จอดนิ่งติดอยู่ที่ท้ายรถของรถผม 

ผมโมโหมาก ตาแดง หน้าแดง ควันออกหูตัว ตัวสั่น ขาสั่น และรีบวิ่งลงจากรถ เพื่อเข้าไปเอาเรื่องทันที

ผมถามคนขับว่า ลุงขับยังไงเนี่ย !

ผมโกรธมาก เพราะผมเป็นห่วงลูกมาก เขาเพิ่ง 2 ขวบเอง และเพิ่งหายป่วย

โชคดีนะ ที่ลูกชายของผม นั่งบนคาร์ซีทจึงปลอดภัยดี ไม่ได้รับบาดเจ็บ 

คุณลุงรู้สึกผิดอย่างรุนแรง ยกมือขอโทษผม แล้วบอกผมว่า 

ลุงกำลัง "หยิบโทรศัพท์มือถือ" ขึ้นมาคุย

ทำให้ผมฉุนขึ้นไปอีก ก็เลยด่าลุงไปอีกว่า 

ลุงรู้ไหมว่า การใช้โทรศัพท์มือถือในการขับขี่ มันผิดกฎหมายนะ !

ลุงก็ยังขอโทษอย่างต่อเนื่อง ช่วงนั้นผมคุมสติไม่อยู่ 

ผมบ่น พึมพำว่า รอประกันมาก็เสียเวลาอีก 

คุณลุงนิ่ง และมองหน้าผม แล้วหยิบนามบัตรให้ และบอกว่าถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็โทรมาหาลุงนะ 

ทันทีที่ผมได้อ่านนามบัตร ทำให้ผมต้องหยุดพูด

เนื่องจากคุณลุง ดำรงตำแหน่งเป็น "นักการเมือง" ในท้องถิ่นที่นี้ 

ผมรู้สึกว่า
เราเป็นคนไทยนะ มีอะไร เราก็อภัยให้กันได้ ยอมได้ ก็ยอม ยอมหยุดเย็น ยอมเป็นก็เย็นได้ 

เราเกิดมาเพื่อสร้างบุญบารมีนะ ไม่ได้เกิดมาเพื่อสร้างคู่กรณี 

และที่สำคัญผมได้ข่าวมาว่า แถวเพชรบุรี เขายิงปืนแม่นมาก  

ในฐานะที่เราเป็นวิทยากรความปลอดภัยเราก็ไม่ประมาท

เราพอจะเห็นไหมครับว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร แล้วคนอื่นจะโชคดีเหมือนผมไหม 

แค่ท้ายรถบุบ ไม่ได้มีใครพิการหรือเสียชีวิต

อุบัติเหตุบนท้องถนน มิได้มีเพียงแค่ เมาแล้วขับ หรือ ขับรถเร็ว 

การใช้โทรศัพท์มือถือในการขับขี่ก็เป็นอีก 1 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้
www.pramoteo.com

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เราได้เรียนรู้อะไร จากระเบิดในเลบานอน

เราได้เรียนรู้อะไร?

จากเหตุระเบิดครั้งใหญ่ ที่ท่าเรือในกรุงเบรุต ในประเทศเลบานอน

ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตล่าสุด 100 คน ยอดผู้บาดเจ็บอีก 4,000 คน 

สาเหตุเกิดจากไฟไหม้โกดังเก็บแอมโมเนียมไนเตรท จำนวน 2,750 ตัน ซึ่งยึดมาจากเรือลำหนึ่ง และเก็บไว้นานถึง 6 ปี
 
รัฐบาลเลบานอน ตั้งคำถามว่า เหตุใดจึงอนุญาตให้เก็บสารเคมีจำนวนมหาศาลเช่นนี้ในย่านชุมชน เป็นระยะเวลา 6 ปี 

สาเหตุยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า แอมโมเนียมไนเตรท ระเบิดได้อย่างไร ? 

เรามาทำความรู้จักกับแอมโมเนียมไนเตรทกันก่อนดีกว่าครับ

- แอมโมเนียมไนเตรท คืออะไร?

แอมโมเนียมไนเตรท มีสูตรโมเลกุล NH4NO3 ที่เรารู้จักกันในชื่อของปุ๋ยเคมี ที่มีไนโตรเจนสูง และละลายในน้ำได้ดี เป็นผงสีขาวเหมือนน้ำตาลทราย ไม่มีกลิ่น 

และถูกจัดให้เป็นวัตถุอันตรายที่ ต้องขออนุญาตในการครอบครอง ตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530
 
- ความเสี่ยง และ ความปลอดภัย ตามมาตรฐาน EU

Risk Phrases: ความเสี่ยง

 R 36/37/38 ระคายเคืองตา ระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง 
 R 8 อาจติดไฟ เมื่อสัมผัสกับวัตถุที่สามารถลุกติดไฟได้ 
 R 9 ระเบิดเมื่อผสมกับวัตถุที่สามารถลุกติดไฟได้ 

Safety Phrases: ความปลอดภัย

S 17 จัดเก็บให้ห่างจากวัตถุที่สามารถลุกติดไฟได้ 
S 26 ในกรณีที่เข้าตา ให้ล้างน้ำออกทันทีปริมาณมากๆ และรีบไปพบแพทย์
S 37/39 สวมถุงมือ อุปกรณ์ป้องกันใบหน้าและดวงตาที่เหมาะสม

สิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องทราบคือ แอมโมเนียมไนเตรท  จัดเป็นสารออกซิไดซ์ 5.1 คือ สามารถให้ออกซิเจน และทำให้สารที่รับออกซิเจนได้ดี เกิดการลุกติดไฟ และระเบิดได้อย่างรุนแรงได้ 

มากไปกว่านั้น ในกรณีที่หกลงบนไม้ หรือ สารอินทรีย์ จะทำให้เกิดการลุกติดไฟได้ 

สมัยที่ผมอยู่โรงงาน ก็มีสารออกซิไดซ์ในโรงงานเหมือนกัน เจ้านายฝรั่งจึงสั่งให้เปลี่ยนเป็นพาเลทโลหะ หรือ พลาสติก แทน 

เพื่อป้องกันการลุกติดไฟ และ ระเบิด และ ไม่นานนักก็ยกเลิกใช้ และ จัดเก็บสารตัวนี้ เพื่อป้องกันที่ต้นเหตุ

ข้อควรระวัง !
สำหรับเกษตรกรที่นำมาใช้เป็นปุ๋ย และ ผู้ที่ครอบครอง

 
1. เก็บให้ห่างจากสารไวไฟ และ สารที่เข้ากันไม่ได้

2. เก็บให้ห่างจากแหล่งความร้อน

3. ปิดป้ายระบุอันตราย 

4. ติดตั้งป้ายห้ามสูบบุหรี่ 

5. ห้ามใช้ไฟสว่างที่คายความร้อนมาก เช่น สปอตไลต์ ในระยะ 60 ซม.

6.ห้ามเก็บสารไวไฟ อาทิ ก๊าซหุงต้ม, กัมมะถัน, น้ำมัน หรือสารหล่อลื่น ไว้ใกล้ 

7.ห้ามเก็บวัสดุติดไฟได้ อาทิ ไม้, กล่องกระดาษ, หรือสารเคมีการเกษตรไว้ใกล้ปุ๋ย

เมื่อปี 2542 ในประเทศไทยเราเอง ก็เคยเกิดเหตุโรงงานลำไยระเบิด ที่ภาคเหนือ คล้ายๆที่เลบานอน แต่ความรุนแรงน้อยกว่า 

แต่ก็เป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิตถึง 45 คน ในระยะรัศมี 1 กม. บ้านเรือนเสียหายกว่า 500 หลังคาเรือน มูลค่าความสูญเสียไม่ต่ำว่า 500 ล้านบาท 

สาเหตุไม่ได้เกิดจากแอมโมเนียมไนเตรท แต่เป็น "โปแทสเซียมคลอเรท" ซึ่งเป็นสารออกซิไดซ์ เหมือนกัน

สิ่งที่ได้เรียนรู้

1. การไม่ปฏิบัติตามกม.ความปลอดภัย นำไปสู่ความหายนะ

2. อะไรที่เคยทำจนชิน แล้วไม่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เกิดขึ้น

3. ทุกอุบัติเหตุ/อุบัติภัย ที่จากความเคยชิน นั้นรุนแรงเสมอ

4. อ่าน MSDS แล้วต้องประเมินความเสี่ยง และ สร้างมาตรการป้องกัน

5. รู้แล้วว่าอันตราย แต่ไม่ป้องกัน ไม่ได้ช่วยอะไรเลย  (รู้หมดแต่อดไม่ได้)

อุบัติเหตุมีไว้เรียนรู้ 
ความปลอดภัยมีไว้ป้องกัน

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้

ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย
The Safety Coach

www.pramoteo.com

#แอมโมเนียมไนเตรท
#ระเบิดเบรุต
#ระเบิดเลบานอน
#เบรุต
#ข่าวระเบิดล่าสุด

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2563

คำคมความปลอดภัย คำขวัญ


คำคมความปลอดภัย 
นำไปใช้ได้ครับ

อุบัติเหตุ ไม่ใช่เรื่องของเวรกรรม แต่เป็นเรื่องของการกระทำ

ความปลอดภัย เป็นหน้าที่ของทุกคน ทุกระดับ ไม่ได้เป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง

ธุรกิจที่ดี ต้องมีความปลอดภัย ธุรกิจใดไม่มีความปลอดภัย คือ ธุรกิจที่ไม่ดี

ความปลอดภัย คือ ส่วนผสมหลักของธุรกิจ อย่าเข้าใจผิดๆว่า คือ ค่าใช้จ่าย

ไม่มีความปลอดภัย ไม่มีผลผลิต 
No Safety No Productivity

อุบัติเหตุมีไว้เรียนรู้ ความปลอดภัย มีไว้ป้องกัน

อุบัติเหตุ และ โรคจากการทำงาน สามารถป้องกันได้

ความปลอดภัย ไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่คือ เรื่องส่วนรวม

ความปลอดภัยมิใช่ภาระ แต่มันคือ หน้าที่

ความปลอดภัย ไม่ได้เป็นสิทธิพิเศษของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ความปลอดภัย คือ สิทธิพื้นฐานของทุกคนทุกระดับ

#คำคมความปลอดภัย
#คำขวัญความปลอดภัย

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้
ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย
www.pramoteo.com

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ที่บ้านไม่ให้เรียนอาชีวอนามัยฯ กลุ่มใจมากเลยครับ


ผมสอบติดอาชีวอนามัย และ ความปลอดภัยครับ แต่ที่บ้านไม่อยากให้เรียน 

พ่อบอกว่า เงินเดือนน้อย แล้วที่บ้านเอง ก็มีภาระด้านการเงินค่อนข้างมาก ผมควรทำยังไงดีครับ?

พี่ไม่รู้ว่าน้อง จะต้องทำอย่างไร ? แต่ดูแล้วทางบ้านของน้อง ต้องการ ให้น้องจบมามีเงินเดือนมากๆ 

ซึ่งจริงๆแล้ว เงินเดือนของจป.เอง ก็ไม่น้อยนะ อาจจะน้อยกว่าวิศวกร 10-20% แต่มีความมั่นคงค่อนข้างสูง เพราะ กม.บังคับ

ถ้าน้องบอกว่ากลุ้มใจมาก ก็หมายความว่า น้องอยากจะเรียนสาขานี้ แต่ที่บ้าน ไม่เห็นด้วย 

การได้เรียน หรือ ทำงานที่ตัวเองไม่รัก ชีวิตย่อมที่จะหาความสุขได้ยาก 

ถ้าจะแก้ปัญหาด้านการเงิน โดยพึ่งพารายได้จากเงินเดือนอย่างเดียวนั้น คงไม่ถูกต้องทั้งหมด อาจจะต้องมีการวางแผนบริหารจัดการการเงิน ใหม่ 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การลดค่าใช้จ่าย เพิ่มการลงทุน หารายได้เพิ่ม และ มีความฉลาดทางการเงิน

การหารายได้เพิ่มนั้น ปัจจุบันมีช่องทางให้เลือกจำนวนมาก ไม่ใช่แค่รอรับจากเงินเดือนทางเดียวเท่านั้น 

น้องลองดูสิครับว่า เรามีความสามารถอะไร ที่มันสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ ไม่ว่าจะเป็น Youtuber, Blogger, สอนออนไลน์ หรือค้าขายออนไลน์ก็ตาม ทุกอย่างได้เงินทั้งนั้น 

ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ 

ลองดูนะครับว่า เราจะช่วยแก้ปัญหาทางการเงินที่บ้านได้อย่างไร ในขณะที่เรากำลังเรียนหนังสืออยู่ ไม่ต้องรอเรียนจบอีกตั้ง 4 ปี มันน่าภาคภูมิใจกว่าเยอะเลยครับ 

พี่อยากจะบอกว่า พี่เจอหลายคนที่จบอาชีวอนามัยฯมา แล้วพัฒนาตัวเอง จนมีรายได้มากกว่าก่อนหน้านั้น ที่เคยเป็นจป. วิชาชีพเสียอีก 

ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษา โค้ช วิทยากร หรือเป็นเจ้าของกิจการ ต่างๆ ที่ให้บริการด้านความปลอดภัยในการทำงาน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีรายได้ดีๆกันทั้งนั้น 

แต่ไม่ได้หมายความว่า ต้องออกมาทำอาชีพอื่น  เพราะจริงๆแล้ว ยังมีหลายคนที่เป็น จป. วิชาชีพ ที่พี่รู้จักหลายคนมีรายได้ 6 หลัก บางคนมีรายได้ครึ่งล้านด้วยซ้ำ 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เงินเดือนจะมาก เงินเดือนจะน้อย มันแปรผันตรงกับความสามารถของเรา 

ถ้าเรามีความสามารถน้อย เงินเดือนเราก็น้อย แต่ถ้าความสามารถเรามาก เงินเดือนก็มาก 

โลกใบนี้มีกติกาที่ชัดเจน หากอยากได้เงินเดือนมากๆ ก็ต้องพัฒนาตัวเองครับ 

ถึงแม้ตอนนี้ยังเรียนไม่จบ อะไรที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่บ้าน ช่วยเพิ่มรายได้ที่บ้านได้ ก็ให้ลงมือทำครับ 


เราต้อง "มีดวงตาเห็นทำ" เห็นอะไรที่ช่วยพ่อแม่ได้ ก็ลงมือทำทันที 

การเรียนไม่ได้เป็นสิ่งที่การันตีว่า เราจะประสบความสำเร็จในชีวิต 

การลงมือทำให้มาก อดทน ขยันขันแข็ง ไม่ย่อท้อไม่ยอมแพ้ต่างหาก ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ 

ทุกอาชีพประสบความสำเร็จได้ครับ ถ้าเราเอาจริง มันไม่เกี่ยวเลยครับว่า เป็นจป. วิชาชีพแล้วเงินเดือนน้อย 

ขอให้เป็น คนเก่ง คนดี คนมีความสามารถและ อยู่ในที่ที่เหมาะสมกับความสามารถของเรา ชีวิตก็ประสบความสำเร็จได้ครับ

ขอให้โชคดีครับ

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้
ติดต่ออบรม www.pramoteo.com

ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย

ท่านใดสนใจหนังสือที่ผมเขียน
สามารถสั่งได้ที่
หรือ Facebook : The Safety Coach

ถังดับเพลิงระเบิดได้มั้ย?

ถังดับเพลิงระเบิดได้มั้ย?

เร็วๆนี้ หลายคนน่าจะได้ยินข่าว "การเสียชีวิต" ของเจ้าของร้านรับเติมเคมีดับเพลิงแห่งหนึ่ง ในจังหวัดระยอง

ในขณะที่กำลังอัดก๊าซไนโตรเจนเข้าไปในถังดับเพลิง 

หลังเกิดเหตุพบว่า ที่ก้นถังดับเพลิง "ทะลุเป็นรู" เนื่องจากแรงดันภายในที่เพิ่มขึ้น 

สาเหตุคาดว่า ถังดับเพลิงดังกล่าว "มีสภาพเก่า เป็นสนิม" และได้รับแรงอัดจากก๊าซไนโตรเจนลงไป ในขั้นตอนสุดท้าย 

ทำให้เกิดการระเบิด จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมในครั้งนี้ 

ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า

เคยบอกสามีไปแล้ว หลายครั้งว่า "ไม่ให้รับถังดับเพลิงเก่าๆ ที่เป็นสนิม หรือชำรุด" มาเติมเคมีดับเพลิง เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายได้

ในอเมริกาเอง...

ก็เคยมีอุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นจากการระเบิดของถังดับเพลิงหลายครั้ง 

ยกตัวอย่าง

เกิดเหตุถังดับเพลิงระเบิด เนื่องจากเกจวัดแรงดันของถังก๊าซไนโตรเจนชำรุด ในขณะที่กำลัง recharge ถังดับเพลิง

ทำให้ก๊าซไนโตรเจน ที่มีแรงดันสูงถึง 2500 ปอนด์ ถูกอัดเข้าไปในถังดับเพลิง ซึ่งรับแรงดันได้เพียงแค่ 150 ปอนด์ เท่านั้น 

จนเป็นเหตุให้เกิดการระเบิด และมีผู้เสียชีวิต

ส่วนอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

ไม่ได้เกิดจากการ recharge ถังดับเพลิง แต่เกิดขึ้นใน "บ้านเรือน" เพราะการวางถังดับเพลิงเก่าๆ ไว้บนพื้นที่เปียกชื้น 

จนทำให้ก้นถังเป็นสนิม และก้นถังติดกับพื้น ในขณะที่เจ้าของบ้านกำลังจะยกขึ้น เพื่อไปจัดเก็บในที่อื่น 

ก็เกิดการระเบิดเกิดขึ้นทันที เพราะก้นถังที่เป็นสนิมทะลุ 
 
 
ใน NFPA 10 section 7.1.2.1 (2018) กำหนดไว้ว่า

ผู้ที่ทำการ maintenance หรือ recharge ถังดับเพลิง ต้องได้รับการรับรองการอบรมจากหน่วยงาน ที่ Authority Having Jurisdiction (AHJ) ให้การรับรอง

สิ่งที่ได้เรียนรู้

1. การส่งถังดับเพลิงกลับไป recharge หรือ สั่งซื้อดับเพลิงต้องซื้อหรือใช้บริการจาก ผู้จัดจำหน่ายที่เชื่อถือได้เท่านั้น

2. ทุกครั้ง ก่อนทำการเติมเคมีลงในถังดับเพลิง ต้องสังเกตว่า ถังดับเพลิงชำรุด หรือเปล่า โดยเฉพาะบริเวณที่ก้นถัง รวมถึงมี มอก.มั้ย

3. ในขณะที่กำลังเติมก๊าซไนโตรเจน ควรมีการ์ดป้องกันสำหรับวางถังดับเพลิงเข้าไปไว้ในกรง เพื่อป้องกันในกรณีที่เกิดการระเบิดเกิดขึ้น รวมถึงกะบังหน้า และ แว่นตานิรภัยก็เป็นสิ่งที่จำเป็น

4. เกจวัดแรงดัน และ อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการ recharge ต้องตรวจสอบสม่ำเสมอ

5. การติดตั้งถังดับเพลิง ควรหลีกเลี่ยงความชื้น ความร้อน รวมถึงสารเคมีที่ก่อให้เกิดการผุกร่อน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ต้องทำการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ

6.ถังดับเพลิง ต้องทำการตรวจสอบเป็นประจำทุกเดือน ถังดับเพลิงที่ชำรุด หรือ มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี ควรส่งทำการทดสอบ หรือ ไม่ควรนำมาใช้

ข้อคิดประจำวัน

ความปลอดภัยต่อรองไม่ได้ 
ไม่ปลอดภัย ไม่ทำ

คำพูด ที่ปราศจากการกระทำ 
ไม่ได้ช่วยให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน

#ถังดับเพลิงระเบิด

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้
ติดต่ออบรม www.pramoteo.com

ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย

ท่านใดสนใจหนังสือที่ผมเขียน

สามารถสั่งได้ที่
หรือ Facebook : The Safety Coach

วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2563

ในวันที่กรรมกร มีรายได้มากกว่า วิทยากร


ถ้าเลือกได้หลายคน อยากจะทำงานสบายๆ ไม่มีใครอยากจะทำงานหนัก ที่ต้องใช้แรงงานมากมาย ที่ต้องทำงานทั้งวันทั้งคืน ตากแดด ตากฝน ตากลม และรายได้ก็ไม่ได้มากมายนักเลย 

แต่วันนี้ คนที่มีอาชีพนี้ ที่เราเรียกว่า "กรรมกร" กลับมีรายได้มากกว่า วิทยากรบางคนด้วยซ้ำ 

หากวิทยากรคนนั้น มีอาชีพเพียงแค่ วิทยากรอย่างเดียว ที่เป็นรายได้ทางเดียว โดยต้องออกไปทำงาน ถ้าไม่ออกไปก็ไม่ได้เงิน 

ผมเป็นคนหนึ่งที่เป็นวิทยากรด้านความปลอดภัย และทุกวันนี้ มีรายได้น้อยกว่า กรรมกร

งานที่ใช้แรงงาน ที่เราเรียกว่า กรรมกร เป็นอาชีพที่สุจริตครับ ผมไม่เคยดูถูกอาชีพใดๆทั้งนั้น ถ้าไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำผิดกฎหมาย และยกย่องด้วยครับ ที่ถึงแม้ว่าจะลำบาก เขาก็ไม่โกง ไม่หรอกใคร

ในช่วงสัปดาห์แรก รู้สึกแย่กับตัวเองมาก ที่งานถูกยกเลิกทั้งหมด จากคนที่ออกจากบ้านแทบทุกวัน แต่ตอนนี้ต้องอยู่บ้านทุกวัน 

รายได้ที่เข้ามา มีกินมีใช้ กลับกลายเป็นศูนย์ 

ผมพาครอบครัวมาอยู่กาญจนบุรี เดินเข้าไปออกกำลังกายในไร่อ้อยตอน 6โมงเช้า
 
ผมเห็นชาวไร่ กำลังขุดร่องน้ำสำหรับเปิดน้ำเข้าไร่ ผมถามเขาว่า ทำงานตั้งแต่กี่โมง?

ชาวไร่คนนี้ บอกว่า เขามาทำตั้งแต่ตี 4 แล้ว 

ผมย้อนกลับมาดูตัวเองว่า เขาได้เงินตั้งแต่ตอนตี 4 แต่เราเนี่ย เข้านอนแล้ว เรายังไม่ได้เงินเข้ากระเป๋าสักบาทเลย 

เรามิได้เพียงแค่มีรายได้ต่อวันน้อยกว่า กรรมกร เพราะตอนนี้ แม้แต่เกษตรกรเอง ก็มีรายได้มากกว่าเรา เขามีงานทำทุกวัน 

ฟังดูก็หดหู่กับตัวเองเหมือนกันครับ อาชีพกรรมกร และ เกษตรกร ที่หลายคนมองว่ามีรายได้น้อยที่สุด  

แต่กลับมีรายได้มากกว่าวิทยากรที่หลายคนที่คนส่วนใหญ่มองว่า มีรายได้ดี

จึงคิดว่า การที่เราจะรอให้จบวิกฤต แล้วจึงทำงาน เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องเอาเสียเลย 

สิ่งที่เราควรทำตอนนี้ คือ พัฒนาตนเอง หาความรู้ใหม่ รวมถึง หารายได้ใหม่ๆ ในสภาวะวิกฤตแบบนี้ 

ทำให้เรานึกได้ว่า เราเองก็มี หนังสือที่เราเขียน โดยปกติ ผมเอาไว้แจกลูกค้า เรื่อยๆไม่รีบร้อน  

แต่ตอนนี้ ถึงเวลาที่ต้องเอามาขาย เพราะการอยู่เฉยๆ คือ การลดคุณค่าของตัวเองและ จะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร?

ส่วนตัว รู้สึกดีกับเหตุการณ์นี้ ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง 

การมีงานทำ ถึงแม้จะมีรายได้น้อย แต่การที่ไม่มีงานทำเลย และไม่มีรายได้เลยแย่กว่า

อะไรๆก็ไม่แน่นอน อยากมีอนาคตที่ดี ก็ต้องทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย

ท่านใดสนใจหนังสือที่ผมเขียน

สามารถสั่งได้ที่ www.pramoteo.com  หรือ LINE : @thesafetycoach
หรือ Facebook : The Safety Coach

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2563

ตั้งสติ กับ โควิด-19

           
วันก่อน ผมมีโอกาสได้ดูทีวี เห็นภาพชาวบ้านหลายคน ร้องห่มร้องไห้ โวยวายบ้างก็มี เนื่องจากไม่ได้เงิน 5,000 บาทจากรัฐบาล ผมเห็นแล้วผมรู้สึกว่าเขาคงจะเดือดร้อนมากจริงๆ ที่ไม่ได้รับเงินจำนวนนี้

แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เพียงแค่เขาเหล่านั้นเท่านั้น ที่ไม่ได้รับเงิน เพราะยังมีคนจำนวนมากที่ไม่ได้รับเงินเช่นเดียวกัน

อาการที่เราเห็นดังกล่าว เกิดจากความเครียดนั่นเอง  คนเราถ้าปกติดี มีความสุข ก็จะไม่ถูกความเครียดเข้าครอบงำ และจะไม่แสดงออกในรูปแบบของ ความโกรธ ความโมโห และ ด่ากราดกัน

สิ่งที่เราต้องรู้อีกอย่างก็คือว่า ตอนนี้คนที่เครียด ไม่ใช่แค่เราเท่านั้น ไม่ใช่แค่คนในประเทศไทย แต่คนทั่วโลก ก็ล้วนแต่เครียดกันทั้งนั้น

เครียดกันทั้งโลก

       
      ภาพ: Pekky_Marco ใน  Pixabay

เนื่องจากชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไม่ปกติ จากที่เดินทางไปไหนมาไหนก็ไปได้ ตอนนี้ก็ไปไม่ได้ และที่มากกว่านั้นก็คือ คนที่ไม่มีเงิน หาเช้ากินค่ำนั้น น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะไม่มีเงินเก็บ ถ้าเขามีเงินเก็บเขาก็จะไม่เดือดร้อนอะไรมากมายนัก

แต่มันเกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้สิ่งที่จะทำให้เราสบายใจ ทำให้เราอยู่ได้ ก็คือ "การตั้งสติ"

สติ คือ การรู้สึกตัว รู้ตัวตอนนี้รู้สึกอย่างไร เช่นรู้สึกกังวล ไม่สบายใจ โกรธ เศร้า เหงา

อันดับแรก ต้องกลับมา "รู้สึกตัว" และ อย่าไปจมกับมัน ให้ระลึกเสมอว่า "ในวิกฤต ย่อมมีโอกาส" ซ่อนอยู่เสมอ

ทำไมหลายคน รวยเอารวยเอาในตอนนี้ และทำไมอีกหลายๆคน ทำไมจนเอาจนเอาๆ ทั้งๆที่อยู่สถานการณ์เดียวกัน ก็เพราะว่า เขามีวิธีการในการแก้ปัญหาแตกต่างกัน

ดังนั้น ต้องกลับมารู้สึกตัว ยอมรับ และ ทำความเข้าใจว่า สิ่งที่เราเคยทำได้ในอดีต แล้วก่อให้เกิดรายได้ ก่อให้เกิดความสุขในชีวิต ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้วนะ ให้ "วาง" ไปก่อน

แล้วถามตัวเองว่า เรามีทักษะอะไรบ้าง ที่มีอยู่ ที่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ และหาเงินได้ในสถานการณ์ตอนนี้

          
           ภาพ : Stevepb ใน Pixabay

จงอย่าคิดเรื่องรายได้ ว่ามันจะได้เท่ากับรายได้ก่อนหน้านั้น เพราะเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าตั้งใจทำจริงๆในวิกฤตแบบนี้ เราอาจจะมีอาชีพใหม่ๆและกลายเป็นอาชีพหลักได้เลยทีเดียว

เพื่อนของผมคนหนึ่ง เธอขายเสื้อผ้าที่ประตูน้ำ รายได้ดีมาก แต่ตอนนี้ไม่สามารถทำได้เลย เพราะว่าไม่มีคนออกมาเดิน ผู้คนไม่ใช้จ่ายเงิน แต่เธอเองโดยพื้นฐานชอบทำอาหารอยู่แล้ว ก็เลยเปลี่ยนทักษะที่ตัวเองชอบ ให้กลายเป็นเงิน โดย"ทำอาหารตามสั่งขาย"

วันหนึ่งขายได้ประมาณ 200 กว่ากล่อง ก็ทำให้เธอยิ้มได้ เลี้ยงทุกคนในครอบครัวได้  ไปถามเธอว่า  ทำไมจึงทำได้ ? 

เธอตอบว่า ก็ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่ ลืมความสำเร็จเดิมๆ มองหาสิ่งใหม่ๆทำ

อันดับแรก ต้องมีเงินเลี้ยงปากท้องตนเอง และทุกคนในบ้าน เอาแค่ว่า ไม่อดตายก็พอแล้ว รวมถึง พยายามมองมุมมองในแง่บวก ที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ แล้วลงมือทำ

คนส่วนใหญ่ที่ทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ว่าไม่ได้ลงมือทำ แต่เขาเหล่านั้น "ลงมือทำไม่สุดความสามารถ" ต่างหาก ก็เลยไม่ประสบความสำเร็จ

ถ้าจะทำอะไรแล้วก็ต้องทำจริงๆจังๆ ความอดทนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และต้องมองโลกตามความเป็นจริง รวมถึงดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจให้ดี

ต่อให้ยุ่งแค่ไหน ก็ต้องออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ฮอร์โมนต่างๆในร่างกายทำงานได้ปกติ

             
             ภาพ : Sasint ใน Pixabay

ไม่ลืมไปว่า ใจกับกาย มันอยู่ด้วยกัน ใจทุกข์กายก็ทุกข์ด้วย กายทุกข์ ใจก็ทุกข์เช่นเดียวกัน

ต้องกลับมา "ยอมรับความจริง" เพราะมันไม่ใช่มีเพียงเราเท่านั้นที่เดือดร้อน เขาเดือดร้อนกันทั้งโลก

"การบ่น" ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น มีแต่คนเขาจะมองว่า เราไม่สามารถแก้ปัญหาเป็นระบบ หากเราเอาแต่รอรับการช่วยเหลือจากคนอื่น โดยไม่คิดจะช่วยเหลือตัวเอง คิดหรือว่าคนที่ช่วยเหลือเราจะข่วยเหลือเราได้ตลอดไป

แม้กระทั่งพ่อแม่เราเอง ก็ยังดูแลเราตลอดไปไม่ได้เลย 

พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ทุกครั้งที่เกิดปัญหาให้กลับมาแก้ที่ตนเอง ปัญหามันจึงจะจบ อย่าไปโทษผู้อื่น

มนุษย์แตกต่างสัตว์เดรัจฉาน ตรงที่มนุษย์มีสติ

ดังนั้น เราไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน เรามีสติ เรามีความคิด ก็ต้องเอาสติมาใช้ เพื่อให้ดำรงชีวิตต่อไปได้ "หอยมันไม่มีตีน มันยังทำกินได้เลย" ปู่เย็นเคยบอกเอาไว้

ให้กำลังใจทุกคนครับ ถ้าจะลงมือทำ ก็ทำให้มันสุดๆไปเลย แพ้เป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร ตั้งสติให้ดี ครับ 

ปราโมทย์โอภาสมงคลชัย 


ท่านใดสนใจหนังสือที่ผมเขียน

สามารถสั่งได้ที่ www.pramoteo.com  หรือ LINE : @thesafetycoach
หรือ Facebook : The Safety Coach



วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2563

โควิด-19 กระทบกับ วิทยากรอย่างไรบ้าง

จริงๆแล้ว ไม่ใช่เฉพาะอาชีพวิทยากรเท่านั้น ที่ได้รับผลกระทบ แต่ แทบทุกอาชีพบนโลกนี้เลยทีเดียว ที่ได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง

โดยเฉพาะอาชีพที่ต้องพบปะผู้คน หรือ ที่รายได้ เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกีฬา  คอนเสิร์ต งานมหรสพ ต่างๆ รวมถึงงานสัมมนาด้วย

งานสัมมนา หรือ การอบรมนั้น ย่อมหนีไม่พ้นคนที่เป็น วิทยากร นั่นเอง ที่รับผลกระทบเต็มๆ

ดังนั้น 

คนที่เป็นวิทยากรตอนนี้ มีรายได้ 0 บาท เพราะไม่สามารถออกไปพบปะใครได้

แต่บางคนก็หารายได้เพิ่ม ด้วยการทําคอร์สออนไลน์ หรือ ทำอะไรก็ตามที่สามารถถ่ายทอดความรู้ของตัวเองให้กลายเป็นเงินได้ ก็เป็นสิ่งที่ดีครับ 

แต่สำหรับ วิทยากรที่เป็นคนนำกิจกรรมหรือ ทีม Team Building ต่างๆย่อมโดนหนักกว่าวิทยากรทั่วๆไป 

เพราะนักกิจกรรมเหล่านี้ จะต้องอาศัยคนจำนวนมาก มากๆ กิจกรรมจะมีการใกล้ชิดกัน สัมผัสกัน ร้องตะโกน หัวเราะ เฮฮา ยิ่งทำไม่ได้ใหญ่ และ ต้องมีการจ้างทีมงานอีก

คนที่เป็นนักกิจกรรม สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็ทำได้เพียงออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการทำกิจกรรมต่างๆ 

หรือถ้าเขามีความรู้อะไรต่างๆ ที่มากกว่า การกิจกรรม ก็เอามาแชร์มาแลกเปลี่ยนได้ 
ซึ่งมันไม่ง่ายเลยนะครับในตอนนี้ 


ที่ผมเล่าให้ฟัง เพราะน้องๆหลายคนที่อยากจะเป็นวิทยากร จะได้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ที่ผมได้ประสบมาก่อน

จึงอยากจะแชร์ประสบการณ์บางอย่างให้ทราบ 

คำถาม 

ภายหลังที่จบวิกฤตโควิด-19 อะไรบ้างที่เราต้องเตรียมตัว หากวันนั้นเราเป็นวิทยากรแล้ว แต่ 5 ปีถัดมา ก็มีเชื้อโรคร้ายกลับมาอีก 

ส่วนตัวผมเอง ก็ได้รับผลกระทบมาเต็มๆ ช่วงที่เริ่มระบาดใหม่ๆ งานก็ถูกยกเลิกไป 10 งานครับ รายได้เหลือเท่ากับ 0 บาท 

แต่ค่าใช้จ่าย ก็ยังคงที่ครับ เพราะมีที่ต้องจ่ายเป็นประจำอยู่แล้ว 

นาทีนี้ทำให้กลับมาทบทวนดูว่า การมีรายได้เพียงทางเดียวนั้น อันตรายสุดๆ 

เราต้องมีรายได้ทางอื่นๆด้วย ผมยังโชคดีที่ยังมีร้านค้าออนไลน์ ขายอุปกรณ์ PPE (www.esafetythailand.com) เล็กๆน้อยๆ 

รวมถึงเรายังมีทรัพย์สินทางปัญญา ก็คือหนังสือ 4 เล่ม และอีบุ๊คที่เรามีครับ แล้วยังมีความรู้ ที่พร้อมจะทำคอร์สออนไลน์ เพื่อหารายได้เพิ่มเติมได้อีก

ไม่ใช่มีเพียงสอนแค่เรื่องของเซฟตี้เท่านั้นเรื่องอื่นเราก็สอนได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพูด การเขียน การสร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิต และถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆ 

ที่เล่าให้ฟังไม่ได้ต้องการจะบอกว่าเรามีความสามารถมากมายนัก 

แต่กำลังจะบอกว่า 
"ทุกคนเกิดมาเพื่อประสบความสำเร็จ" 

เราทุกคน มีศักยภาพซ่อนอยู่ในตัว คนที่ประสบความสำเร็จทุกคน สามารถดึงศักยภาพที่เขามีออกมาได้ เพราะเขาค้นหามันเจอ 

แต่คนที่ยังไม่เจอกัน เอากันตรงๆเลยนะครับ เขาไม่ตั้งใจที่จะค้นหาตัวเอง

ขออภัยถ้าต้องพูดแรงๆ เพราะว่าถ้าเขาเจอแล้ว ชีวิตของเขา ย่อมดีกว่านี้แน่ๆ 

แต่ถ้าเจอแล้ว ปราศจากการลงมือทำ ก็ย่อมไม่เกิดประโยชน์อะไร 

การลงมือทำอย่างเดียว ก็ไม่เพียงพอ ก็ต้อง ลงมือทำให้มันสุดความสามารถด้วย จะได้ไม่มีข้ออ้างมาบอกว่า ลงมือทำไปแล้วแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ 

ผมขออนุญาตถ่ายทอดประสบการณ์ที่มี เพื่อเป็นประโยชน์ต่อน้องๆ หรือท่านใดก็ตามครับ ที่จะเข้าสู่วงการวิทยากรและในวิกฤตเราจะอยู่ยังไงให้ได้และสำคัญมากๆ

อย่าลืมวางแผนเรื่องการเงิน และก็ ต้องมีทุนสำรองอย่างน้อย 6 เดือน ที่เราอยู่ได้โดยที่เราไม่ต้องทำงานไว้เป็นกรณีฉุกเฉินด้วยครับ 

ภาพ : bangkokpost

มูฮัม หมัดอาลี เป็นนักมวยที่โด่งดังมาก แต่โด่งดังมากจากการขี้โม้ตั้งแต่อายุ 20 

ตอนนี้เขาอายุ 50 แล้ว มีคนไปถามเขาว่ายังขี้โม้เหมือนเดิมไหม?

เขาบอกว่า ผ่านมา 30 ปีถ้ายังทำเหมือนเดิมยังเหมือนเดิม ก็หมายความว่าเราไม่ได้เรียนรู้เราอะไร เราไม่ได้พัฒนาตัวเราเองเลย

เช่นเดียวกันกับสถานการณ์ตอนนี้ เราถูกน็อคดาวน์มาหลายอาทิตย์  

30-40 ปีที่ผ่านมาของเรา ความคิด ความเชื่อที่มี ก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย เพราะถ้าเราไม่เปลี่ยน เราจะถูกมันเปลี่ยน 

เหมือนสึนามิคลื่นใหญ่ที่พัดเราหายไปจนไม่เหลืออะไรเลย 

โชคดีทุกคนนะครับ

ปราโมทย์โอภาสมงคลชัย 

ท่านใดสนใจหนังสือที่ผมเขียน

สามารถสั่งได้ที่ www.pramoteo.com  หรือ LINE : @thesafetycoach
หรือ Facebook : The Safety Coach

วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2563

ใครๆก็ไม่ชอบจป.


จป.หลายคน น่าจะเคยมีประสบการณ์ จากการที่เรา คิดช่วยเหลือ หวังดี แต่ปรากฎว่ากลับถูกตำหนิ หรือ ไม่ก็ถูกขู่ทำร้าย 

เราก็นึกว่า เราหวังดี แต่ผลที่ได้ กลับมา กับไม่ดีเอาซะเลย

"ความขัดแย้ง" เกิดขึ้นจากการที่แต่ละคนแต่ละฝ่าย มีความคิดเห็น ที่แตกต่างกัน และที่มากกว่านั้น คือ

ทั้งๆที่รู้ว่า "มีความคิดเห็นแตกต่างกัน แต่ต่างฝ่าย ต่างก็จะเอาความคิดเห็นของตัวเอง ไปควบคุม ไปบังคับคนอื่นให้ทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ" 

จป. ก็เข้าใจว่า เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง มันคือเรื่องความปลอดภัย และ เป็นกฎระเบียบของบริษัท

ส่วนพนักงานบอกว่า มันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ ยุ่งยากเสียเวลา ทำให้งานล่าช้า

คิดคนละฝั่ง แล้วมันจะมาเจอกันได้ยังไง?

จะดีกว่าไหม ที่เราเปลี่ยนจากการสั่ง เป็นการโค้ช 

ต้องเป้าหมาย  

"ผลผลิตก็ได้ความปลอดภัยก็ดี" 

การโค้ช อาจจะไม่ต้องต้องคำถามก็ได้ แต่วางกลยุทธ์ให้เขาได้ฉุกคิดได้ว่า "สะท้อน" ให้เขาเห็น 

อาจจะเป็นกิจกรรมต่างๆ ตัวอย่าง หรือ หลักฐานของการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึง ผลกระทบที่เกิดขึ้น 


การจัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวของพนักงาน เพื่อให้เกิดความรู้สึกรัก และ ผูกพันกัน ห่วงใยกัน ก็ช่วยได้

จะได้คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น 

สิ่งที่สำคัญมากที่สุด อย่าพยายามควบคุมใคร ในขณะที่เจ้าตัวยังไม่ยอมรับ

"การสร้างความสัมพันธ์" 

เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ถ้าความสัมพันธ์ไม่ดี เหตุผลไม่สอดคล้องกัน ยากมากที่จะควบคุมหรือ โน้มน้าวให้เขาไปในทิศทางเดียวกับเรา

ผมสังเกตมาหลายบริษัทแล้ว จป.ที่มี "มนุษยสัมพันธ์ที่ดี" มีความเข้าใจ รู้จักฟัง จะได้รับการยอมรับจากพนักงาน และผลที่ตามมา คือ "อุบัติเหตุลดน้อย" 

ความสัมพันธ์ในองค์กรก็ดี วัฒนธรรมความปลอดภัยที่ดีตาม

ปราโมทย์โอภาสมงคลชัย
The Safety Coach
www.pramoteo.com

วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563

Brain Centered Hazards

Brain Centered Hazards 

เป็นการค้นพบเพิ่มเติม ในเชิงวิทยาศาสตร์ ด้านประสาทวิทยา (Neuro Science) 

เพื่อศึกษาเกี่ยวกับ สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ อันเนื่องมาจากการทำงานของสมอง  

ในอดีต เราเชื่อกันว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้น มาจากการ "กระทำที่ไม่ปลอดภัย" เราก็ควบคุมบังคับไม่ให้เกิดการกระทำนั้นๆขึ้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

แต่ในเรื่องของ Brain Centered Hazards นั้น  มองลึกลงไปว่า

ทำไมเขา จึงแสดงพฤติกรรมนั้นออกมา อันเกิดจากฮอร์โมน และ เคมีในสมอง

โดยเฉพาะเรื่องของ"ความอ่อนเพลีย" และ อารมณ์ต่างๆ ซึ่งมีผลก่อให้เกิดพฤติกรรมนั้นๆ

ยกตัวอย่าง

คนที่เกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากหลับใน ก็มาจากเรื่องของ ความอ่อนเพลีย หรือไม่ก็ ดื่มแอลกอฮอล์

ซึ่งมีผลต่อเคมีในสมอง ทำให้เกิดความเมื่อยล้า ตัดสินใจผิดพลาด รวมถึงหงุดหงิดอารมณ์เสียได้ง่าย

แม้กระทั่งในบ้านเองก็ตาม

ความผิดพลาด หรือ การทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้น ก็มักจะเป็นช่วงเย็นๆหลังเลิกงาน

เนื่องจากต่างคนต่างเหนื่อย แล้วก็อ่อนเพลีย "คอร์ติซอล" ฮอร์โมน หลั่งเต็มหัว

ทำให้เกิดโอกาสกระทบกระทั่งกันได้ง่าย หากมีอะไรที่ไม่พอใจ

และก็นำไปสู่ ความโมโห รีบร้อน เกิดข้อผิดพลาด และเกิดอุบัติเหตุได้

ดังนั้น

Brain Centered Hazards คือ การศึกษาลงไปถึง ระดับฮอร์โมน ความคิด ที่นำไปสู่การใช้ชีวิต ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย

หัวหน้างาน จะรู้แต่เรื่องงานอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้เรื่องชีวิต และ อารมณ์ ความเป็นอยู่ของลูกน้องด้วย

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้

ปราโมทย์โอภาสมงคลชัย 

www.pramoteo.com

วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2563

หน้ากากป้องกันโควิด สำหรับบุคคลากรทางการแพทย์

ภาพ : 3M

3 สาเหตุที่บุคลาการทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด19 เกิดจาก 

1. อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน
2. การสวมใส่ไม่กระชับ 
3. สุขอนามัยภายหลังการใช้งาน (Decontamination)

แต่ตอนนี้ซวยจริงๆครับ ไม่มี อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล (PPE) อะไรมาให้ใส่ 

ก็ต้อง DIY กันเอง แล้วก็เกิดปัญหาทั้ง 3 ข้อด้านบนตามมา ! 

"ผู้ช่วยเหลือ กลายเป็นผู้ติดเชื้อ"

ในฐานะที่ผมเป็นนักอาชีวอนามัยฯ และ ครูบาอาจารย์ อบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี

*** ผมอยากจะเสนอไอเดีย ในสภาวะที่หน้ากากอนามัย รวมถึง หน้ากาก N95 ขาดตลาด  

เราสามารถใช้หน้ากากชนิดกรองอากาศให้บริสุทธิ์ โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ หรือ Power-Air Purifying Respirator (PAPR) 

ซึ่งมีมาตรฐานความปลอดภัยสูงกว่า หน้ากาก N95 และสามารถใช้ซ้ำได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความกระชับ

หลักการที่ใช้ 

อุปกรณ์จะมีตัวกรอง HEPA ติดอยู่ที่เอวด้านหลัง 

โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ดูดอากาศจากภายนอก ผ่านตัวกรอง HEPA ให้บริสุทธิ์ เพื่อใช้ในการหายใจ

และส่งผ่านไปตามท่อหายใจด้านหลัง ขึ้นด้านบนศีรษะ ส่งผ่านมายังระบบทางเดินหายใจ

รวมถึงจะมี ลมอ่อนๆเป่าออกมา ช่วยผลักเชื้อโรคไม่ให้เข้ามาในหน้ากาก (Positive Pressure)

ช่วยให้ผู้สวมใส่ สามารถหายใจได้ตามปกติ และสะดวกกว่า ไม่อึดอัด ไม่ต้องคำนึงถึงความกระชับใบหน้าเหมือนหน้ากาก N95

โดยหน้ากากชนิดนี้ที่เห็นในรูป 

ถุงคลุมศีรษะ+PAPR ที่เห็น จะมีระดับการป้องกัน หรือ Assign Protection Factor (APF) อยู่ที่ 25 เท่า ของระดับความเป็นอันตรายสูงสุดของอนุภาค หรือ สารพิษ สารเคมีเหล่านั้น 

ซึ่งหน้ากาก N95 จะมีค่า APF เพียง 10 เท่านั้น แต่ PAPR ตัวนี้ สามารถป้องได้มากกว่า 25 เท่า

ด้วยความเคารพครับ...

บุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะคุณหมอ ต้องใกล้ชิดกับผู้ป่วยเหล่านี้มากที่สุดในการตรวจ 

ดังนั้น 

"การป้องกันสูงสุด" จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ  และตอนนี้ PAPR เองก็น่าจะขาดตลาด 

แต่ผมเชื่อว่า

ในโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง รวมถึงองค์การเภสัชกรรมเอง ก็น่าจะมีใช่อยู่บ้าง 

ในสภาวะวิกฤตแบบนี้

หากพวกท่านไม่จำเป็นต้องใช้ รบกวน "ช่วยบริจาค" ให้โรงพยาบาลด้วยครับ 

หรือถ้ามันแพง ก็ให้เขายืมไปก่อน หลังจากจบภาวะวิกฤตนี้แล้ว ก็ไปขอคืนได้ครับ

บุคคลากรทางการแพทย์ต้องรอด
มิได้มีเจตตนาตำหนิใครนะครับ...

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้
ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย


FB : www.fb.com/safetycoach
LINE : @thesafetycoach
https://lin.ee/sF6hMc8

www.pramoteo.com

วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ผู้นำด้านความปลอดภัย ไม่ฟัง ไม่ได้


หากเราคิดว่า สิ่งที่เรากำลังจะพูดสำคัญกว่า สิ่งที่ลูกน้องของเรา กำลังพูดอยู่ตรงหน้าของเรานั้น 

เท่านี้ก็เท่ากับว่า เราก็ "สูญเสียความเป็นผู้นำ" ไปเรียบร้อยแล้ว 

หลายคน อาจจะรู้สึกว่า เรื่องที่เราพูดมันสำคัญกว่าจริงๆนะ ระดับเด็กๆจะพูดอะไรได้สำคัญเท่ากับเรา 

ผมไม่รู้หรอกครับว่า เรื่องของใครสำคัญกว่า แต่ "การให้คุณค่า" ของคนนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญมาก

หากลูกน้องของเรา กำลังพูดกับเราอยู่ ถ้าเราตั้งใจฟัง เราจะได้อะไรดีๆเยอะมากเลย 

รวมถึงได้เข้าใจความรู้สึกของเขา และมากไปกว่านั้น เรายังสามารถที่จะช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้ด้วย 

ผู้บริหารท่านหนึ่ง มาทำงานใหม่ เขาเดินลงไปในฝ่ายผลิต ไม่ใช่เพื่อที่จะไปพูด ไปสั่ง ไปบอกอะไรกับลูกน้อง

แต่เขาตัดสินใจลงไปเพื่อ "สร้างความสัมพันธ์ที่ดี" กับทุกคน และสิ่งที่เขาตัดสินใจก็คือ "ปิดปากตัวเองให้เงียบ และตั้งใจฟัง"


เขาบอกว่า มันเป็นโอกาสที่ดีมากเลยนะ ที่เราจะได้ฝึกปิดปากซะบ้าง เพื่อ เปิดหู เปิดตา เปิดใจ 

เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากลูกน้องทุกคน 

ผู้บริหารท่านนี้ ตั้งคำถามกับลูกน้องว่า 

ถ้าคุณเป็นหัวหน้างาน อะไรคือสิ่งแรกที่คุณจะทำเพื่อความปลอดภัย?

เขาบอกว่า เขาจะติดกระจกเงา บริเวณทางแยก 

เพราะว่าหลายครั้งที่ เขาขับโฟล์คลิฟท์ เขามักไม่เห็นโฟล์คลิฟท์ด้วยกัน และเขามักจะไม่เห็นคนเดินมา รวมถึง คนที่เดินมา ก็ไม่เห็นรถโฟล์คลิฟท์ ที่เขาขับมาด้วย 

ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนกันเอง รวมถึงเกือบชนคนที่เดินผ่านไปมาหลายครั้ง


ผู้บริหารท่านนี้ถามต่ออีกว่า แล้วทุกวันนี้ยังไม่ได้ติดกระจกเงาให้เหรอ?

เขาบอกว่าติดให้แล้ว แต่ยังไม่ครบทุกจุด

ผู้บริหารท่านนี้ จึงเข้าใจแล้วว่า จริงๆแล้ว ก็มีการป้องกันอันตราย ตามจุดต่างๆนะ แต่ยังไม่ครบถ้วน 

จึงนำเรื่องนี้ ไปแจ้งให้กับหัวหน้างาน เพื่อให้ดำเนินการให้ครบถ้วน ตามที่ ลูกน้องต้องการ 

หลังจากนั้น ก็ไม่มีอุบัติการณ์ที่เกิดจากการเฉี่ยวหรือชนกันของฟอร์คลิฟท์อีกเลย 

ถ้าผู้นำ ไม่ฟังลูกน้องก็ไม่รู้หรอกว่า ตอนนี้ ลูกน้องกำลังมีปัญหาอะไร ลูกน้องกำลังกังวลเรื่องอะไรบ้าง มีอะไรที่ไม่ปลอดภัยในบริษัท 

และเผลอคิดไปเองว่า มีกระจกเงาครบถ้วนแล้ว เพราะผู้บริหารก็เห็นว่ามันมีอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่าบางจุดนั้นไม่มี หากไม่ถาม ไม่ฟัง

เขาจึงรู้ว่า ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาไม่รู้ เพราะ หัวหน้างานไม่เคยบอกอะไรเขาเลย

ผู้นำ คือ ผู้ฟัง ถ้าผู้นำไม่ฟัง ก็ไม่ใช่ผู้นำ 

ผู้นำด้านความปลอดภัย
พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้

ติดต่ออบรมความปลอดภัย
www.pramoteo.com

LINE OA : @thesafetycoach

วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2563

อุบัติเหตุเหรอ ลืมๆไปบ้างก็ได้

ชายคนหนึ่ง เป็นคนเก่ง เป็นคนที่มีความสามารถ เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากๆ 

จนวันหนึ่ง ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เชิญเขา ให้มาทำงานด้วย แล้วถามเขาว่า 

คุณต้องการอะไรบ้างไหมในห้องทำงาน? 

ชายคนนี้บอกว่า ผมต้องการโต๊ะใหญ่ๆ 1 ตัว กระดาษ ดินสอ และ ถังขยะ ใบใหญ่ๆ 1 ใบ 

ผู้บริหารท่านนั้น เกิดความสงสัย จึงถามชายคนนี้ว่า 

ทำไมคุณจึงต้องการ ถังขยะใบใหญ่ๆด้วยล่ะ?

ชายคนนี้ตอบว่า เพราะผมต้องการ ที่จะทิ้งกระดาษ ที่ผมทำผิดพลาด ลงไปในถังยะ 

ชายคนนี้มีชื่อว่า  "อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์"


ผมได้อ่านบทความนี้  จากอัตชีวประวัติ  ของเขา  ทำให้ผมเข้าใจว่า

คนเก่ง คนมีความสามารถ คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต 

เขารู้อยู่แล้วว่า ระหว่างทางที่จะไปยังจุดนั้นๆ ย่อมเกิดความผิดพลาดเกิดขึ้น และเกิดขึ้นจำนวนมากๆด้วย 

เขาก็พร้อมที่จะทิ้งมันไป โดยไม่สนใจ เพื่อที่จะมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายที่ตัวเองต้องการ  ไม่จมปลักอยู่อดีตที่ผิดพลาด


เช่นเดียวกับงานด้านความปลอดภัย การทำงานแรกๆ ในระบบของโรงงานที่ไม่มีมาตรฐาน ก็ย่อมเกิดอุบัติเหตุได้ หรือ แม้ว่าจะมีมาตรฐานที่ดีแล้วก็ตาม

"อะไรที่เกิดขึ้น ย่อมดีเสมอ" 

อุบัติเหตุมีไว้เรียนรู้ ความปลอดภัยมีไว้ปฏิบัติ" 

ทุกครั้งที่เกิดเหตุ ก็ต้องศึกษาว่า 

1. สาเหตุเกิดจากอะไร? 
2. เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง?
3. เราจะทำอย่างไร ให้ปลอดภัยมากกว่านี้? 

พี่คนนึงเล่าให้ฟังว่า พนักงานที่บริษัท เสียชีวิต เนื่องจากขาดอากาศหายใจ ในที่อับอากาศ 

เธอเสียใจมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ แทบจะเป็นอาการซึมเศร้า 1ปีเต็มๆ 

จนวันนึง เธอมีโอกาสไปคุยกับจิตแพทย์ และปฏิบัติธรรมเพิ่มเติม ทำให้เธอเข้าใจโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้น 

เริ่มมองเห็นไตรลักษณ์ เริ่มมองเห็นความจริงของชีวิต เกิดขึ้นตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป ไม่มีอะไรแน่นอนและถาวร 

สิ่งที่เกิดขึ้น ล้วนดีเสมอ เป็นสัจธรรมของชีวิต 

เพราะเขาไม่ปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัยอุบัติเหตุก็ต้องเกิดขึ้น มันย่อมถูกต้องอยู่แล้ว 

แทนที่เราจะมานั่งเสียใจทุกข์ใจ เขาก็ไม่ฟื้นขึ้นมา แต่ถ้าเราตั้งใจที่จะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม อะไรๆ ก็ย่อมดีขึ้น


"อุบัติเหตุมีไว้เรียนรู้ ความปลอดภัยมีไว้ปฏิบัติ"

อย่าจมปัก กับความผิดพลาดในอดีต

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้
ปราโมทย์โอภาสมงคลชัย 

อบรมจิตสำนึกความปลอดภัย  BBS  
โทร 089 678 4547  
LINE@ : @thesafetycoach
www.pramoteo.com